เรื่องของคนตาบอด

ท่านอาจารย์บันเกอิ เป็นพระเซ็นที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น มีลูกศิษย์มากมายทุกระดับทุกประเภท รวมทั้งคนตาบอดในเรื่องนี้ด้วย คนตาบอดคนนี้ไปมาหาสู่ท่านอาจารย์เป็นประจำ คืนหนึ่งแกก็มาวัดตามปกติ และอยู่สนทนากับท่านอาจารย์จนดึก บังเอิญคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด ตอนลากลับบ้านท่านอาจารย์จึงให้คนหาเทียนไข จุดใส่โคมกระดาษแบบญี่ปุ่น ให้แกเดินถือกลับบ้าน

“ไม่ต้องหรอกครับ กลางคืนหรือกลางวัน สำหรับผมแล้วก็เหมือนกัน ผมกลับบ้านเองได้เพราะผมชินทางแล้ว” คนตาบอดบอกท่านอาจารย์

“เอาไปเถอะ ถือไปนี่ไม่ได้สำหรับตัวเธอ แต่เผื่อไว้ให้คนอื่นเห็น จะได้ไม่มาเดินชนเพราะมันมืดออกอย่างนี้” ท่านอาจารย์แนะ แล้วคนตาบอดก็ถือโคมเดินกลับบ้าน ค่อยๆ เดินคลำทางไปช้าๆ พอไปได้สักพักใหญ่ แกก็ตกใจ เพราะได้ยินเสียงคนกำลังวิ่งสวบๆ สวนทางมาจะชนแก แกจึงเอ็ดตะโรขึ้นว่า

“อะไรๆ จะรีบไปไหนกันล่ะพ่อคุณ ตามไฟส่องให้แล้วนะนี่ มองไม่เห็นเรอะ ?”

“อะไรได้ เทียนของท่านมอดไหม้ดับหมดแล้ว” เสียงตอบมา

ทันทีที่ได้ยินว่าหมดเชื้อไฟที่จะตามส่องได้อีกแล้ว ดวงตาภายในของแกก็สว่างโพลงขึ้นทันที ณ ที่แกยืนอยู่นั่นเอง ต่อจากนั้น แกก็เป็นคนตาบอดที่บอดแต่ดวงตาเท่านั้น ส่วนตาในของแกไม่ได้บอดไปด้วยอีกเลย

ระหว่างคนตาดีและคนตาบอด ในแง่ของการหลุดพ้น ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะรู้จักโลกนี้ได้กว้างไกลพิศดารกว่าแล้วจะจบก่อน แต่อยู่ที่ว่าสิ่งที่ตนว่ารู้นั้นรู้แจ้งหรือไม่ต่างหากขณะนี้ตาท่านดีไม่บอด แต่ใจท่านบอดอยู่หรือเปล่า ?